เนียง หญิงชาวพื้นเมืองผู้เป็นแม่ของลูกสี่คน อาศัยอยู่อย่างสงบกับพ่อแม่ในหมู่บ้านกบาลโรมิแอส พื้นที่ห่างไกลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชา
แต่ในปี 2014 ความสงบนั้นถูกสั่นคลอนจากการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำใกล้หมู่บ้าน และในปลายปี 2017 อ่างเก็บน้ำได้ท่วมทำลายหมู่บ้านทั้งสิ้น ขณะที่บางครอบครัวยอมย้ายไปยังค่ายชดเชยที่รัฐจัดไว้ เนียงและชาวบ้านบางส่วนเลือกอยู่ต่อและสร้างบ้านใหม่บนเนินเขาใกล้กัน เพื่อดำรงวิถีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติและจิตวิญญาณบรรพบุรุษ
แต่ดินแดนนี้กลับถูกบุกรุกโดยบริษัทจีนที่ปลูกยางพารา ทำให้เนียงและชุมชนถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุกโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ภายใต้แรงกดดันและการคุกคามที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง พวกเขากลับยิ่งยืนหยัด
หนึ่งในข้อความบนผนังบ้านเก่าของเนียงเขียนไว้ว่า “ขอตายดีกว่าจากบ้านเกิด” สะท้อนความผูกพันอันลึกซึ้งต่อผืนดินผืนนี้
ขณะเดียวกัน เนียงยังต้องรับมือกับความเปราะบางในครอบครัว นัยน์ สามีของเธอ ทิ้งครอบครัวไปในปี 2014 เพื่อแลกเงินชดเชยจากบริษัทเขื่อน และพยายามพรากลูกชายคนเล็ก โขช ไปด้วย ย่าแนนป่วยหนักด้วยโรคเรื้อรัง ขณะที่ตาเจ้าอดทนทำงานหนักแม้เจ็บป่วย ส่วนเตาย ลูกชายคนโต ฝันอยากเป็นช่างทำผม แต่ไม่เห็นหนทางจะเป็นไปได้หากต้องอยู่ที่นี่
แม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เนียงยังไม่เคยสิ้นหวัง เมื่อนัยน์พบว่าเขาไม่ได้สิทธิ์ใด ๆ เขาจึงทอดทิ้งโขช และเนียงก็นำลูกชายกลับสู่อ้อมกอดอีกครั้ง แม้รู้ดีว่าหมู่บ้านนี้ไม่มีโรงเรียนและไม่อาจมอบอนาคตให้กับลูกชายผู้เฉลียวฉลาดของเธอได้
ตั้งแต่การท่วมของหมู่บ้านในปี 2017 Until the Orchid Blooms ถ่ายทอดเรื่องราวของเนียง ผู้หญิงธรรมดาที่กลายเป็นวีรสตรีในการต่อสู้เพื่อฟื้นฟูชีวิตบนผืนดินบรรพบุรุษของเธอ หมู่บ้านกบาลโรมิแอสค่อย ๆ กลายเป็นภาพแทนของอุดมคติทางจิตวิญญาณ และมรดกที่กำลังล่มสลายอย่างเงียบงัน
Director’s statement :
การทำ Until the Orchid Blooms คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยทั้งความเจ็บปวดและการเติบโต ทั้งในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์และในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
มันเจ็บปวดมากสำหรับผมที่ได้เห็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับชุมชนชายขอบของเนียง ตลอดหกปีของการถ่ายทำ ผมเฝ้ามองความเจ็บปวดและความทุกข์ยากที่เนียงและครอบครัวของเธอต้องเผชิญ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ต้องเติบโตมาพร้อมกับบาดแผลและความทรงจำเลวร้าย ทั้งจากการสูญเสียบ้าน ความกลัวที่พ่อแม่ของพวกเขาเผชิญ และการถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมจากผู้มีอำนาจ ผมถามตัวเองอยู่เสมอว่า ความรู้สึกและประสบการณ์ด้านลบเหล่านี้จะส่งผลต่อวิถีชีวิตของพวกเขาเมื่อโตขึ้นอย่างไร พวกเขาจะซึมซับความกล้าหาญจากพ่อแม่ที่ลุกขึ้นสู้ และเติบโตเป็นคนที่เข้มแข็งเหมือนกันหรือไม่ หรือพวกเขาจะเติบโตมาพร้อมกับความกลัวต่ออนาคตที่ไม่แน่นอน
แต่ท่ามกลางความเจ็บปวดเหล่านั้น ผมก็ได้สัมผัสกับความรักและความเมตตาจากผู้คน โดยเฉพาะเนียง ผู้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในชีวิตของผม ความอ่อนโยนและความกล้าหาญของเธอทำให้ผมเรียนรู้ที่จะมีเมตตายิ่งขึ้น และขยายความเห็นอกเห็นใจออกไปทั้งต่อธรรมชาติและเพื่อนมนุษย์ บางทีนี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถหยิบยื่นมาเป็นของขวัญจากการเดินทางครั้งนี้นั่นคือการไม่กลัว การมีความหวัง การก้าวเดินต่อไป และที่สำคัญที่สุดคือการมี “หัวใจที่ไม่ยอมแพ้” ท่ามกลางสถานการณ์อันโหดร้าย เพราะความยืดหยุ่นนี้เองที่ทำให้มนุษย์ยังเดินต่อ และลุกขึ้นสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะเหตุนี้ Until the Orchid Blooms จึงถูกสร้างขึ้นในฐานะบันทึกการสังเกตของผมต่อช่วงเวลาต่าง ๆ ในชีวิตของเนียงและผู้คนในหมู่บ้านของเธอ มันคือการปะติดปะต่อของเศษเสี้ยวกาลเวลาและพื้นที่ ที่รวมกันเงียบ ๆ เพื่อสะท้อนความงามของวิถีชีวิตเรียบง่าย ที่กลับกลายเป็นเปราะบางภายใต้เงาแห่งการคุกคามจากความโลภของผู้มีอำนาจ
Polen Ly เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวกัมพูชาที่เรียนรู้ด้วยตนเอง ผลงานของเขาหยั่งรากอยู่ในประเด็นทางสังคมและธรรมชาติ โดยมีวิธีเล่าเรื่องที่มักถ่ายทอดผ่านภาพเชิงเปรียบเทียบและสัญญะหลากหลายรูปแบบ ภาพยนตร์ของเขาหลายเรื่องได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติ รวมถึงรางวัลชนะเลิศจากเทศกาล Tropfest SEA ที่ประเทศมาเลเซีย จากภาพยนตร์สั้น Colourful Knots และในปีถัดมา เขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้กำกับในโครงการ Director Fellow ของ Asian Film Academy เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
ในปี 2021 สารคดีสั้นของเขาเรื่อง Side By Side คว้ารางวัล Youth Jury Prize จากเทศกาล Locarno International Film Festival สาย Open Door ส่วนภาพยนตร์สั้นแนว fiction เรื่องล่าสุด Further And Further Away ได้รับคัดเลือกให้ฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Berlinale ปี 2022 และคว้ารางวัล“Best Live-Action Short over 15 minutes จากเทศกาล Palm Springs International ShortFest
ปัจจุบัน Polen กำลังพัฒนาภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกในแนว fiction ชื่อ Becoming Human ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการ Biennale College Cinema ของเทศกาลภาพยนตร์เวนิส นอกจากนี้ เขายังมีโปรเจกต์ภาพยนตร์แนว docu-fiction เรื่องยาวชื่อ Sick River, Sick Lake ที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอีกด้วย
Filmography :
Colourful Knots (2015)
Red Ink (2017)
Side by Side (2021)
Further and Further Away (2022)
Until the Orchid Blooms (2024)